เด็ก ๆ เมื่อพวกเขาอายุน้อย อาจจะถึงห้า เจ็ด หรือแปดขวบ ยังคงจำอดีตชาติได้ หรือยังจำสวรรค์ได้ หรือยังจำพระเจ้าได้ มีเรื่องหนึ่งที่ฉัน เล่าให้คุณฟังแล้ว ที่พ่อแม่บังเอิญได้ยิน ลูกอายุ 4 ขวบ ถามน้องอายุ 2 ขวบ “โปรดบอกฉันหน่อยว่า พระเจ้าเหมือนอะไร เพราะฉันเริ่มลืมแล้ว”
( ท่านได้อยู่ในฌาน อาจารย์ครับ และท่านอาจจะมี การเปิดเผยที่อัศจรรย์เพิ่มเติม แน่นอนครับ อาจารย์ เราจะมีความสุขมากที่จะรู้ ) คุณสามารถเห็นมันในข่าวด้วย อย่างเกาหลี มี การระเบิด(ขึ้น)บางอาคาร ในประเทศของพวกเขาเอง และเวลานี้มีสันติสุขอีก (ค่ะ/ครับอาจารย์) คล้ายอย่างนั้น และบางประเทศอื่นด้วย แค่ตรงนี้นิดตรงนั้นหน่อย (ค่ะ/ครับ) ไม่อย่างนั้น ประเทศส่วนใหญ่ สงบสุข สงบสุขมากขึ้นมาก กว่าแต่ก่อนปี 50 ใช่ไหม (ค่ะ/ครับ) เดี๋ยวก่อนนะ ฉันอาจจะมีบางสิ่ง ในสมุดบันทึกของฉัน (ขอบคุณค่ะ/ครับ อาจารย์) ฉันไปดู ดีไหม? (ขอบคุณค่ะ/ครับ อาจารย์) อยู่นะ นั่ง (ครับ) ฉันจะเกาท้องพวกคุณ ตอนฉันกลับมา มีข่าวที่ให้ความหวังบางอย่างด้วย เพราะว่าพวกเขากำลังทดสอบ วัคซีนแล้ว (ครับ พวกเขาทำ) ในอังกฤษและรวมทั้งในอเมริกา (ครับ) ดังนั้น เราอาจจะมีหวัง จิ้งจกบอกฉัน “ขอให้มีความสุข ลูกศิษย์ที่ก่อกวนไปแล้ว” ฉันรู้ว่าใคร ก็คือ นั่นเป็นสิ่งที่เขาพูด “มันเหมือนกับแอก ถูกยกออกไปจากไหล่ของฉัน” (วาว อาจารย์) บลา บลา บลา หนึ่งในสิ่งที่เป็นทางลบนั้น แต่เพราะจิ้งจก เขาเตือนฉัน นั่นเป็นวันที่ 24 วันพุธ และปัญหาทั้งหมดมาพร้อมกัน ฉันสูญเสียคนทำงานคนหนึ่ง แล้วก็คนดูแลสุนัข เกิดอุบัติเหตุอย่างนั้น ไม่สามารถทำงาน แล้วก็ อีกคนจะต้องไปในไม่ช้า โอ้! และสิ่งอื่น ๆ ฉันไม่สามารถบอกคุณ
ฉันเคยชินกับการเขียนด้วยมือ ตลอดเวลา (ค่ะ/ครับ อาจารย์) ฉันไม่รู้ วิธีเคลื่อนเม้าส์ และเวลานี้ฉันกำลังทำงาน ทั้งหมดผ่านทางคอมพิวเตอร์ (วาว! ยอดเยี่ยม) ฉันพิมพ์ทุกสิ่งด้วยตัวฉันเอง (วาว!) ด้วยหนึ่งนิ้วครึ่ง (วาว!) (ท่านอาจารย์ อัศจรรย์มาก) ฉันทำผิดพลาด แต่มันง่ายมากที่จะแก้ (ครับ อาจารย์ ยอดเยี่ยม) (นั่นดีมากที่ได้ยินครับ อาจารย์) ทุกสิ่งชัดเจนมาก ๆ ดีขึ้นตลอดเวลา (ครับ อาจารย์) ฌานมีจุดดีด้วย อย่าง แม้แต่สำหรับฉัน สิ่งมากมาย เกิดความชัดเจนมากขึ้น การแก้ปัญหา หรือการปรับปรุงให้ดีขึ้น สำหรับสุพรีมมาสเตอร์ทีวี (ค่ะ/ครับ อาจารย์) ในแบบนั้น นั้น และนั้น ถ้ามันไม่ได้เกี่ยวกับคุณ คุณจะไม่รู้ (เข้าใจครับ) เพราะฉันเพิ่งจะส่งผ่านข่าวสาร ไปให้ใครก็ตาม แผนกที่เกี่ยวข้อง (ค่ะ/ครับ อาจารย์) ดังนั้น ไม่ใช่พวกคุณทั้งหมดจะรู้ (ค่ะ/ครับ อาจารย์) แต่คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงบางสิ่ง ที่นี่และที่นั่น (ค่ะ/ครับอาจารย์) ดีขึ้น ยกตัวอย่าง ฉันได้บอกพวกเขา คำนำก่อนเรื่องตลก ควรจะ ผ่อนคลายและขบขันมากขึ้นหน่อย (โอใช่ครับ ค่ะ/ครับ) ไม่ใช่เหมือนกันเสมอ (ค่ะ/ครับ) และฉันได้เขียนอาจจะประมาณ 30 ตัวอย่าง ให้กับพวกเขา (ครับ) (วาว อาจารย์) พวกเขาสามารถเลือกที่พวกเขาชอบ แล้วก็ดำเนินต่อ ในทิศทางนั้น (ค่ะ/ครับ) ไม่อย่างนั้น มันน่าเบื่อมาก เหมือนกันตลอดเวลา: “ตอนนี้ เป็นเวลาสำหรับเรื่องตลก ฮา! ฮา!” เหมือนกับตลอด ใช่ไหม? (ใช่ค่ะ/ครับ) เกือบจะ บางครั้งบางคราว พวกเขาใส่เพิ่มอีกหนึ่งคอมม่าหรือ เพิ่มอีกหนึ่งจุดในนั้น ไม่อย่างนั้น มันเหมือนกัน ตลอดเวลา (ค่ะ/ครับ) เหมือนกับ “เคล็ดลับของวัน” คุณได้เห็นว่ามันต่างไป ทุกวันนี้ไหม (ค่ะ/ครับ อาจารย์) ฉันเขียนพวกนั้น (วาว อาจารย์) แค่ห้าหรือหกของพวกนั้นครั้งแรก และภายหลังฉันผลักดันอีก ประมาณ 30 อย่าง (ค่ะ/ครับ) แต่ฉันบอกพวกเขา ให้ใส่เสียงที่เข้าท่าในเรื่อง พวกเขาแค่อ่าน แค่เหมือนกัน เกือบจะเหมือนเรื่องก่อน โอ้ คุณ! ฉันบอกว่า “จะต้องมี เสียงที่เข้าท่า” ฉันให้ข้อสังเกต ฉันเขียนอย่างนั้น ฉันพูดว่า “จะต้องไปด้วยกัน กับเสียงที่เข้าท่า” (เข้าใจครับ) อย่าง ยกตัวอย่าง ถ้าเป็นฉัน ฉันอาจจะพูดอย่างหนึ่งใน คำนำ ฉันน่าจะพูดว่า “ผู้คนหลงรักฉัน จนโงหัวไม่ขึ้น เพราะฉันเป็นวีแกน! ตอนนี้คุณลองดู!” อย่างนั้น แต่พวกเขาพูดว่า “ผู้คน โงหัวไม่ขึ้นหลงรักฉัน เพราะฉันเป็นวีแกน ตอนนี้คุณลองดู” อาจจะนั่นเป็นเรื่องน่าขันของพวกเขา บางทีพวกเขาต้องการที่จะ… พวกเขาอาจจะตั้งใจทำมัน เพราะมันน่าขันมาก น่าขันที่ไม่ได้น่าขัน! คุณเข้าใจไหม? (ครับ อาจารย์) และ ก็ บางสิ่งเหมือนอย่างนั้น ฉันเขียนอย่างนั้น และฉันก็ยังเขียนอย่าง “คุณบอกได้ไหมว่าฉันอายุเท่าไร? ไม่ คุณไม่สามารถ เพราะฉันเป็นวีแกน ฉันแค่ครึ่งหนึ่งของอายุของฉัน!” บางสิ่งอย่างนั้น (ค่ะ/ครับ) มันจะต้องมีมากกว่า อย่าง แบบของเสียงที่น่าขบขัน (ครับ) นิสัยแก้ยาก มันเป็นเรื่องดีแล้วที่สามารถอ่าน มันดีขึ้นเวลานี้
ถึงแม้ว่าฉันพิมพ์ช้า แต่มันไม่มีผิดพลาด เพราะแต่ก่อน เวลาฉันเขียนด้วยมือ บางครั้งฉันเขียนตัวที “t” หลายตัว หรือเอส“s”ตัวหนึ่งน้อยไป เพราะฉันเขียนเร็วเกินไป ดังนั้นบางครั้ง มันไม่ได้เห็นชัด แล้วก็คน ที่ช่วยฉันพิมพ์ ไม่ได้พิมพ์ดี (ครับ) ดังนั้น โดยปกติ ฉันจะต้องเขียนด้วยมือ แล้วก็มีคนส่ง แค่มาเอาไป และนำมันกลับไปที่ห้องทำงาน และคนอื่นจะต้องพิมพ์มัน (ครับอาจารย์) แล้วพวกเขาก็จะต้อง นำกลับมาให้ฉัน เพื่อตรวจว่า พวกเขาพิมพ์ถูกต้องหรือไม่ มันใช้เวลามาก! และก็ถ้าฉันแก้ หนึ่งหรือสองคำไปแล้ว คราวหน้าพวกเขาทำ ผิดพลาดอีกอย่าง บางคำอื่น เหมือนไม่มีสิ้นสุด (ครับ) บางครั้ง ฉันไม่รู้ว่า ฉันควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เพราะว่าน่าเบื่อมาก และตอนนี้ฉันพิมพ์ด้วยตัวฉันเอง ถึงแม้มันช้า แต่มันแน่นอน คุณเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดไหม? (เข้าใจครับอาจารย์) แทบจะไม่มีผิดพลาด ไม่มีเลย อาจจะว่าฉันกดมันนานเกินไป มันก็กลายเป็น “s” สองหรือสามตัว แต่ถ้าฉันเห็นมัน ฉันลบออกตัวหนึ่ง แต่โดยปกติไม่มี ถึงตอนนี้ไม่มี ฉันเห็นเกือบจะไม่มี (วาว) (ครับ อาจารย์) เกือบไม่มี อาจจะหนึ่งตัวเอส “s” มากเกินไป แต่คุณเข้าใจ ยกตัวอย่าง ฉันพูด “salute” (ครับ อาจารย์) “ฉัน salute คุณ” ด้วย “s” สองตัว คุณก็น่าจะรู้ ว่ามันไม่สามารถมี “s” สองตัว “อาจารย์จะต้องพิมพ์เร็วเกินไป หรือกระโดดมากไป” เพราะคอมพิวเตอร์ พวกเขามีจิตใจของตัวพวกเขาเอง! ฉันต้องการเขียนข้างใต้นี้ ยกตัวอย่าง ครึ่งทาง และฉันไม่รู้ ฉันแค่กดปุ่มหนึ่ง และมันกระโดดขึ้นไปทั้งหมด ไปที่บนสุดของแผ่น! มันเกิดกับคุณไหม? (บางครั้ง ค่ะ/ครับ) สำหรับคุณ บางครั้ง สำหรับฉัน หลาย ๆ บางครั้ง! ฉันคิดว่าคอมพิวเตอร์รู้ ว่าฉันเป็นมือสมัครเล่น ดังนั้น มันลองแหย่ฉัน แต่ฉันรู้สึกมีความสุขมากเวลานี้เพราะ ฉันสามารถเป็นอิสระมากขึ้น ฉันไม่ชอบเป็นผู้ที่ต้องพึ่งพา การต้องพึ่งพาทำให้ฉัน รู้สึกไม่ดีมาก ฉันหมายถึง มันทำให้ทุกคนรู้สึกไม่ดี เพราะไม่มีใครทำอย่างถูกต้องกับ ที่คุณต้องการให้เป็น (ครับ อาจารย์) ส่วนมากไม่ แล้วนั่นก็เป็นเหตุของ ความหงุดหงิด ความหงุดหงิดและปวดหัว และอารมณ์เสีย ฉันมีความสุขมากขึ้นเวลานี้ ถึงแม้ว่าฉันทำงานหนักขึ้น และพิมพ์ช้ากว่า และทั้งหมดนั้น แต่ฉันแน่ใจสิ่งที่ฉันเขียน และฉันรู้ว่ามันเป็นอะไร และไม่มีใครทำผิดพลาด อีกต่อไป (ขอบคุณครับ อาจารย์) (เรามีความสุขด้วยครับ อาจารย์) (ยอดเยี่ยมครับ อาจารย์) คุณสามารถเห็นว่า ถ้าคุณรับบางสิ่ง และคุณไม่เห็นอะไรผิด มันเป็นฉัน อาจารย์ของคุณ! (ขอบคุณครับ อาจารย์) เชี่ยวชาญมาก ๆ เวลานี้ ด้วยหนึ่งนิ้วครึ่ง! เพราะนิ้วอื่น บางครั้งจะต้องกด ปุ่มหนึ่งหรืออะไร และนิ้วอื่น ฉันพิมพ์
หรือบางครั้ง ฉันจะต้อง สแกนข่าว และสิ่งทั้งหมดนั้น ให้กับกลุ่มอื่นดู หรือเพื่อว่าฉันสามารถอ่านให้คุณฟัง บางครั้งเป็นอย่างนั้น เพื่อว่าคุณจะระวัง และปกป้องตัวคุณเอง แม้แต่ดับเบิลยูเอชโอ (องค์การอนามัยโลก) ได้แต่บอกผู้คนว่า มันไม่ปลอดภัย (ครับ) (มันไม่ปลอดภัยครับ อาจารย์) คุณจะต้อง ปกป้องตัวเองจริง ๆ ยังไม่ปลอดภัย มันไม่ได้จากไป มันยังคงมา! (ค่ะ/ครับ อาจารย์) แต่ก่อน มันเป็นเพียงแค่มากกว่า หนึ่งล้านราย (ผู้ป่วยโควิด-19) เราก็รู้สึกว่า “วาว!” แล้วเวลานี้มันเป็นมากกว่าเก้าล้าน ฉันคิดว่าอาจจะสิบไปแล้ว เป็นทางการ (ค่ะ/ครับ อาจารย์) แต่ที่ไม่เป็นทางการ มันมากกว่านั้น (ค่ะ/ครับ) สามเท่าเป็นอย่างน้อย มากกว่านั้น (ครับ อาจารย์) ฉันไม่ได้เข้าไปถึงรายละเอียด แต่ฉันรู้มาก มากกว่า กว่าเก้าล้าน (ค่ะ/ครับ อาจารย์) (ครับ นั่นจริง) ดังนั้น มันยังไม่ได้ไปจากเรา (ค่ะ/ครับ อาจารย์) ฉันต้องการบอกคุณสิ่งนี้ เผื่อว่าคุณใส่เข้าไปใน [สุพรีมมาสเตอร์] ทีวี สำหรับคนของเรา (เข้าใจครับ อาจารย์) คนข้างนอก ฉันไม่ได้หวังว่าพวกเขาเชื่อฉัน ฉันหวังว่าพวกเขาเชื่อ แต่ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจะเชื่อไหม เพราะพวกเขาไม่ได้รู้จักฉันจริง ๆ และฉันไม่รู้ว่า พวกเขาจะเชื่อหญิงแก่คนหนึ่ง อย่างฉันพูดอะไรหรือไม่ “ท่านเป็นใครที่พูดอะไร?” ฉันพูดทั้งหมดนี้สำหรับผู้คน เพื่อว่าพวกเขาจะระมัดระวังมากขึ้น มันไม่สนุกที่จะป่วย โดยเฉพาะชนิดนี้ (ค่ะ/ครับ อาจารย์) มันยุติชีวิตคุณ และทรมานคุณก่อนนั้น (ครับ อาจารย์) ฉันหวังว่าพวกเขาฟัง คนข้างนอกกลุ่มของเรา แต่ฉันไม่ได้คาดหวัง อย่างน้อยที่สุดคนของเรา พวกเขารู้ (ครับ ขอบคุณท่าน อาจารย์) เพราะมันยังคงเป็นเรื่อง เร่งด่วนมากจริง ๆ (ค่ะ/ครับ อาจารย์)
หลายประเทศ พวกเขาไม่ตรวจสอบผู้คน ตรวจน้อย หรือตรวจนิดเดียวเท่านั้น เพราะพวกเขาไม่ต้องการ ให้จำนวนขึ้นไปสูง (ค่ะ/ครับ) ไม่อย่างนั้น พวกเขาไม่สามารถเปิด (ครับ อาจารย์) แต่ นี่เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้จริง ๆ จริง ๆแล้ว เพราะเราส่ง เด็กไปโรงเรียน! (ค่ะ/ครับ อาจารย์) นั่นเป็นเรื่องที่ไม่สมควร มันง่ายสำหรับพวกเขาที่จะป่วย เวลาที่พวกเขาจับกลุ่มด้วยกัน ในประวัติศาสตร์ มันเป็นอย่างนั้น อย่างกับโรคหวัดสเปน กลุ่มเด็ก ติดเชื้อมากกว่า ถ้าพวกเขาไปโรงเรียน พวกเขาจะติดโรคกัน เพราะเป็นจำนวนมาก แล้วพวกเขากลับบ้าน ก็ไปติดเด็กคนอื่น ติดคนในครอบครัว (ค่ะ/ครับ อาจารย์) นั่นเป็นประสบการณ์ กับโรคหวัดสเปน แต่รัฐบาล ไม่สามารถทำได้มากด้วย ถ้าพวกเขาได้แต่ล็อกดาวน์คน พวกคนจะทำ การปฏิวัติเสียด้วย และพวกเขามีสิ่งมากมายที่เกิด อยู่แล้วเวลานี้ พวกเขามีการต่อต้าน ไปทุกหนแห่ง เกี่ยวกับสิ่งมากมาย เกี่ยวกับโรคระบาดใหญ่ เกี่ยวกับการแบ่งแยกผิว เกี่ยวกับรูปปั้นมากมายเสียด้วย รูปปั้นที่พวกเขาต้องการ เอาลงมาหรือเอาขึ้นไป มันเป็นความวุ่นวายที่นั่น (ค่ะ/ครับอาจารย์) เราปลอดภัยในช่องของเราเอง เราไม่รู้มัน แต่คุณสามารถเห็นในข่าว ถ้าคุณอ่านข่าว (ค่ะ/ครับ อาจารย่) คุณทำได้ ใช่ไหม? พวกคุณปราดเปรื่อง แค่ฉันคนเดียว ที่ไม่รู้ จะหาข่าวอย่างไร บางคนใส่แอป ให้ฉันในไอโฟนของฉัน ฉันมีไอโฟนเมื่อสองปีก่อน หรือสองสามปีก่อน ในที่สุด มันสะดวกดีสำหรับฉันเวลานี้ ลองคิดดู อาจารย์คุณปราดเปรื่องมากเวลานี้! (ครับ อาจารย์!) (เราภูมิใจในตัวท่านครับ อาจารย์!) (ยอดเยี่ยมครับ อาจารย์!) ใช่ ปรบมือ ปรบมือ! ใช่ ใช่ จิตวิญญาณที่เกื้อกูล (เราเป็นครับ อาจารย์) ทำให้ฉันดำเนินต่อไป ดำเนินต่อไป (ครับ ดำเนินต่อไป อาจารย์) ความอิสระมากขึ้น ดีสำหรับฉัน ฉันอยู่ในอารมณ์ที่ดีขึ้น (ครับ อาจารย์)
คุณรู้ นั่นทำไม เด็กส่วนมาก อย่างเด็กวัยรุ่น ไม่เพียงแค่เพราะ ร่างกายพวกเขาเติบโตเร็วเกินกว่า ที่พวกเขารับได้ มันเป็นเพราะพวกเขา ขึ้นกับพ่อแม่มากเกินไป หรือกับผู้ใหญ่ หรือผู้ดูแลของพวกเขา หรือพ่อแม่บุญธรรม พ่อแม่ ใครก็ตาม เพราะพวกเขาพึ่งพาเกินไป เด็ก ๆ เพราะ พวกเขายังใหม่ในโลกของเรา เวลาพวกเขาเป็นเด็กทารก พวกเขายังคงเชื่อมโยงกับสวรรค์ และเวลาที่พวกเขาอย่างเป็นวัยรุ่น พวกเขาก็ยังคงมีสิ่งนี้วนเวียนอยู่ ในจิตใต้สำนึก เรื่องอิสรภาพ ของสวรรค์ ถ้าพวกเขาไม่ได้มาจากนรก แน่นอน ก็คือ การเกิดในร่างกาย มันรู้สึกจำกัดอยู่แล้ว (ค่ะ/ครับ อาจารย์) แล้วคุณก็จะต้อง ขออนุญาตสำหรับทุกสิ่ง และเกือบทุกสิ่งที่คุณทำ เป็นเรื่องผิด พวกผู้ใหญ่มักจะชี้ ให้คุณเห็นว่าคุณทำสิ่งนี้ผิด คุณทำสิ่งนั้นผิด แต่พวกเขาไม่บอกคุณ คุณทำสิ่งนั้นถูกต้อง คุณทำสิ่งนี้ถูกต้อง ส่วนมากไม่ (เข้าใจครับ) ดังนั้น พวกเขารู้สึกถูกจำกัดมาก ๆ (ครับ อาจารย์) แล้วพวกเขาก็ต้อง ขออนุญาตที่จะออกไปข้างนอก แม้แต่แค่ไปซื้อไอศกรีม(วีแกน) คุณจะต้องขอเงิน ว่าพ่อแม่จะให้หรือไม่ไห้ หรือต้องการไปดูภาพยนตร์นี้ ไม่ให้ดู ไปดูภาพยนตร์นั้น ไม่ให้ดู ทุกสิ่งพวกเขาจะต้อง ขออนุญาต เกือบทั้งหมด แม้แต่ออกไปข้างนอกกับเพื่อน จะต้องมีกำหนดเวลา แล้วคุณก็จะต้องกลับมา (ค่ะ/ครับ อาจารย์) หรือไม่อย่างนั้น คุณไม่มี เงินประจำเดือน หรือเงินประจำวัน หรือถูกยึดคอมพิวเตอร์ไป หรืออะไรก็ตาม อื่น ๆอีก หรืออยู่แต่ในห้องของคุณ (ค่ะ/ครับ อาจารย์) หมายถึง ไม่สามารถไปข้างนอก อย่างล็อกดาวน์เวลานี้ และบางครั้ง เด็กไม่ได้ทำอะไรผิด มันเป็นเพียงแค่สถานการณ์ ทำให้ดูเหมือนพวกเขาทำผิด (ครับ เข้าใจ) และพวกเขาไม่รู้ วิธีที่จะแสดงตัวพวกเขาเองอย่างไร มันเกิดกับฉัน นั่นทำไมฉันรู้ (ครับ) คุณไม่รู้ว่า จะอธิบายตัวคุณเองอย่างไร คุณไม่รู้ จะป้องกันตัวคุณเองอย่างไร แล้วมันก็แค่ติดขัด และมันแค่อึดอัด และหงุดหงิด นั่นทำไมเด็ก ๆ เวลาพวกเขาโตขึ้นมา วัยรุ่น พวกเขากลายเป็นยุ่งยาก (เข้าใจ ค่ะ/ครับ อาจารย์) คุณสามารถเข้าใจว่าทำไม ใช่ไหม? (ครับ อาจารย์)
ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาไม่ดี หรืออะไร แค่บางสิ่ง ภายในพวกเขาไม่สามารถรู้สึกอิสระ และรู้สึกจำกัดมาก โดยหลายสิ่งในโลกนี้ ที่ที่พวกเขามาจาก นั้นแตกต่างกัน (ค่ะ/ครับ อาจารย์) เด็ก ๆ เวลาพวกเขาเป็นเด็กเล็ก อาจจะถึงห้า เจ็ด แปดขวบ พวกเขายังคงจำได้ถึง ชีวิตก่อนของพวกเขา หรือพวกเขาจำได้ถึงสวรรค์ หรือพวกเขาจำพระเจ้าได้ มีเรื่องหนึ่ง ฉันเล่าให้คุณฟังไปแล้ว ที่พ่อแม่บังเอิญได้ยิน เด็กสี่ขวบ ถามเด็กสองขวบ “ช่วยบอกฉันหน่อย พระเจ้ามองเหมือนอะไร ฉันเริ่มที่จะลืมแล้ว” (วาว) มันจริง มันน่าจะจริงอย่างนั้น (ค่ะ/ครับ อาจารย์) ตอนฉันเป็นเด็ก ฉันได้ยินแรงสะเทือน (ของสวรรค์) ภายในนี้ ทำนองดนตรี (แห่งสวรรค์) ภายใน ตลอดเวลา (วาว!) และฉันมองขึ้นไปที่ดวงดาว ฉันคิดว่านั่นเป็นเสียง ของดวงดาว (วาว!) ฉันคิดว่าดวงดาว พวกเขาเล่นดนตรี พวกเขาส่งเสียง พวกเขาทำเสียง นั่นเป็นสิ่งที่ฉันคิด ตอนฉันเป็นเด็ก (ครับ) ดังนั้น ฉันมักจะมองขึ้นไป ที่ดวงดาว ฉันต้องการให้พวกเขารู้ว่า ฉันได้ยินพวกเขา ฉันต้องการพูดว่า พวกเขางดงาม งดงาม และฉันคิดว่าพระจันทร์เล่นดนตรีด้วย และพระอาทิตย์เล่นดนตรีด้วย เพราะมันเป็นทุกหนแห่ง แต่แน่นอน เป็นแค่เวลาที่ฉันตื่น ฉันได้ยินมัน เวลาฉันนอนหลับ อาจจะ ฉันไม่รู้ว่าฉันได้ยิน เวลาฉันตื่น ฉันเห็นดวงดาว ดังนั้น ฉันคิดว่านั่นเป็นดาวดาว ที่ทำเสียงแบบพวกนี้ และก็ เวลาฉันตื่น ฉันเห็นพระอาทิตย์ ฉันคิดว่าพระอาทิตย์ทำเสียง (เข้าใจครับ) หรือพระจันทร์ทำเสียง อย่างไรก็ดี วัยบริสุทธิ์เป็นวัยน่ารัก