รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
การกินปลากำลังทำลายระบบนิเวศ ของดาวเคราะห์อย่างมาก พวกเขา ได้พิสูจน์แล้วว่าการตกปลาซาร์ดีน มากเกินไปส่งผลให้เกิดโซนตาย มากมาย เพราะมันอยู่ที่นั่น ด้วยเหตุผลบางอย่าง มันอยู่ที่นั่นเพื่อมหาสมุทร ให้ชีวิตแก่สายพันธุ์ บางประเภท หรือ ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อม สายพันธุ์ใดก็ตาม ที่พระเจ้าทิ้งไว้บนดาวเคราะห์นี้ พวกเขามีงานต้องทำ สายพันธุ์มีงานต้องทำ เช่นเดียวกับมนุษย์ เรามีงานต้องทำ สัตว์ต่าง ๆ พวกเขามีงานต้องทำ แม้แต่ปลาตัวเล็ก ๆ อย่างซาร์ดีน พวกเขามีงานต้องทำ มันแค่มนุษย์มากมาย โง่เขลา พวกเขาคิดว่ามันเป็นปลาตัวเล็ก พวกมันช่วยตัวเองไม่ได้ พวกมันไม่มีประโยชน์ ไม่ พวกเขาไม่ใช่ไม่มีประโยชน์ พวกเขาคิดว่าพวกมันไม่มีประโยชน์ พวกเขาเลยตกพวกมันขึ้นมา แล้วกินมัน แต่พวกมันมีประโยชน์มาก ๆ ต่อระบบนิเวศของเรา และต่อสุขภาพของดาวเคราะห์นี้ และส่งผล ต่อสุขภาพของมนุษย์ และทุกสรรพสัตว์บนดาวเคราะห์นี้ถ้าเราพูด ว่าระบบนิเวศของมหาสมุทร ขึ้นอยู่กับประชากรปลา ต้องสมดุล แล้วระบบนิเวศเหล่านั้น กำลังเสียสมดุลอย่างรุนแรง ตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์ประเมิน ว่าปลาใหญ่ในมหาสมุทร มากกว่า 90% ได้หายไป ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการประมงเชิงพาณิชย์ พวกเขาเตือนว่า ในอัตราการประมงในปัจจุบัน มันจะมีการพังทลายทั่วโลก ของทุกสายพันธุ์ที่ถูกจับ ภายในปี 2050 และกล่าวว่า ความพยายามฟื้นฟูจำเป็นต้อง เริ่มทันทีการบริโภคเนื้อสัตว์ มีผลกระทบทำลายร้ายแรงใหญ่หลวง ต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ที่จำเป็นต่อโลกของเรา ในการทำงานและดังนั้น ต้องได้รับการอนุรักษ์ไว้ ไม่ว่าจะเล็กเพียงไหน แต่ละสายพันธุ์มีบทบาท ช่วยทำให้ระบบนิเวศของเราสมดุล พิสูจน์แล้วทางวิทยาศาสตร์ และ การบริโภค ของทั้งปลา และเนื้อสัตว์ก็ยังดำเนินต่อไป และสร้างปัญหาต่อความหลากหลาย ทางชีวภาพทั่วโลก ในมหาสมุทร และทางน้ำจืด สายพันธุ์ปลาจำนวนมาก ได้สูญหายไปแล้ว ด้วยสิ่งแวดล้อมทางน้ำ ที่สมบูรณ์เช่น แนวปะการังถูกทำลาย จากการกระทำเช่นการลากอวน และการประมงด้วยระเบิดถ้าปลายังถูกเอา ไปจากมหาสมุทรต่อไป มันจะกลายเป็นว่างเปล่า อย่างในทะเลทราย ในปี 2006 ทีมนานาชาติของ นักวิทยาศาสตร์และนักเศรษฐศาสตร์ พบว่าประมาณหนึ่งในสาม ของปลาในมหาสมุทร ได้ถูกกวาดล้างไปแล้ว เนื่องจากการประมง มลพิษ และสาเหตุอื่น ๆ จากมนุษย์ พวกเขาเตือนว่า ถ้าการลดลงอย่างมากของจำนวน ปลายังไม่หยุด มหาสมุทรจะว่างเปล่า ปราศจากปลาภายในปี 2048 มันไม่นานเลย มันไม่ใช่อนาคตไกลสำหรับเรา การอยู่รอดของเราเองนั้นก็เสี่ยง ถ้าเรายังบริโภคปลาต่อไป เพาะมหาสมุทรผลิต ครึ่งหนึ่งของออกซิเจนโลก และปลาเป็นส่วนสำคัญ ของระบบนิเวศทางน้ำ ที่ผลิตออกซิเจนให้เราปลาวาฬ คุณก็รู้ “ปลา” ยักษ์ใหญ่อ่อนโยน ในทะเล พวกเขาเป็นผู้กอบกู้โลกของเรา ผู้กอบกู้ออกซิเจน พวกเขาเก็บคาร์บอนในตัวพวกเขา เป็นเวลานานมาก แล้วพวกเขา [ช่วย] ผลิต ออกซิเจนให้โลกของเรา ลองจินตนาการนั่นดู? และคนบางคนก็ยัง ล่าพวกเขา เป็นอาหาร! หาข้ออ้างเช่น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เราต้องทำการวิจัยอะไร กับปลา ที่มีชีวิตอยู่ ฉันหมายถึง อยู่มานานหลายแสนปี ในทะเล? ถ้าเราไม่แตะต้องพวกเขา เราไม่ยุ่งกับพวกเขา พระเจ้าดูแลพวกเขาตรงกันข้ามกับที่หลายคนเชื่อ ปลามีความฉลาด ความเข้าใจ และสามารถรู้สึกได้ถึงพลังเชิงบวก! ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ แบ่งปันการพบปะที่น่าสนใจ กับปลาของท่านเอง และอธิบาย ว่าเหตุใดปลาถึงชอบอยู่ใกล้ กับผู้บำเพ็ญจิตวิญญาณมันเกิดขึ้นตอนที่ เราอยู่ในผิงตงเช่นกัน ปลาต่างว่าย บนผิวน้ำและเต้นรำ ใช่! พวกเขาส่องแสง ในผิงตง ตอนที่เราไปถึงตอนแรก เราลงไปล้าง หน้าและมือของเรา ทันทีทันใด ปลา ก็ว่ายขึ้นมาที่ผิวน้ำ ว้าว! มันมีจำนวนมาก ทั้งทะเลสาบสว่างไสว! มันเกิดขึ้นทุกครั้ง! ปลาชอบอยู่ใกล้ ๆ เรา พวกเขาเข้าใจ ธรรมชาติพุทธะของพวกเขา ภายใน เข้าใจ ธรรมชาติพุทธะของพวกเขา และของเรานั้นเหมือนกัน ปราศจากธรรมชาติพุทธะภายใน พวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เราไม่สามารถเดินหรือคิดได้ ความแตกต่างอย่างเดียวคือ ปลาไม่สามารถคิดได้อย่างพวกเรา โครงสร้างสมองของพวกเขา และของเรานั้นต่างกัน ดังนั้นพวกเขาไม่สามารถคิดได้ แต่จิตสำนึกของพวกเขาภายใน สามารถรู้สึกได้ว่าใครดีกับพวกเขา ตอนที่พวกเขาอยู่ใกล้กับเรา พวกเขารู้สึกมีความสุขมาก นั่นคือเหตุผลที่พวกเขามาหาเราปลานั้นฉลาดและอ่อนไหว อย่างไม่น่าเชื่อ นักวิทยาศาสตร์ชาวอิสราเอล สอนปลาให้เอาอาหาร จากการฟัง เสียงเฉพาะบางเสียง หลังจาก 5 เดือน พวกเขายังจำสิ่งที่พวกเขา ได้เรียนไปได้อยู่ คิดดู? และนี่ไม่ได้พูดเกี่ยวกับ ประโยชน์ที่มองไม่เห็น มากมายที่สัตว์เหล่านี้ นำมาสู่ชีวิตของมนุษย์ และบ้าน แม้แต่ปลาอาจารย์คะ ฉันแค่สงสัย ว่าสัตว์รู้ถึงปัญหาของ สภาวะโลกร้อนและสภาพอากาศ เปลี่ยนแปลงด้วยไหมคะ? พวกเขาทำอะไรเพื่อช่วยเรา ช่วยดาวเคราะห์อันงดงามของเราไหม? ขอบคุณค่ะท่านสัตว์ต่าง ๆ พวกเขารู้เกี่ยวกับมัน แน่นอน พวกเขาพยายามอย่างดีที่สุด เพื่อสั่นระฆังเตือน และเตือนด้วยโรค และแต่การตายเป็นหมู่ใหญ่ แต่ฉันไม่รู้ว่าพวกเรากี่คน ที่กำลังฟังอยู่ ปลาบางตัวยังไปเกยบนหาด พวกเขาหลายร้อยตัว ในเวลาเดียวกัน กำลังตายที่นั่น ดังนั้น สัญญาณหลายอันในธรรมชาติ สัญญาณสัตว์จำนวนมาก แต่เราต้องฟัง มันไม่ใช่สัตว์ มันคือพวกเรา น่าเสียดาย คนจำนวนมาก วันนี้ยังตกปลา เป็นการสันทนาการ ไม่รับรู้ ว่าปลาเป็นสิ่งมีชีวิตรับรู้ความรู้สึกได้ เช่นเดียวกับพวกเรา“คนก่อกรรมเลว (ผลกรรมสนอง) ไหม เวลาคุณไปตกปลา?” แน่นอน คุณจะได้รับ กรรมเลว (ผลกรรมสนอง) มาก ๆ มาก ๆ หรือคุณคิดว่ายังไง? ว่าปลาได้ กรรมเลว (ผลกรรมสนอง) หรืออะไร? แน่นอน ถ้าคุณไป ตกปลา คุณก็ก่อ กรรมหนัก (กรรมสนอง) เพราะคุณกำลังฆ่า สิ่งมีชีวิต เวลาของเขายังมาไม่ถึง เมื่อเขาไม่ได้ไป ตามธรรมชาติโดยประสงค์ของพระเจ้า ทุกครั้งที่เราฆ่า สิ่งมีชีวิตใด ด้วยเจตจำนงของตัวเอง ของเรา เราก่อ ภาระให้วิญญาณของเรา และมันยากมากสำหรับเรา ที่จะลบสิ่งนั้นในภายหลังก็ ปลา ยังไงก็ไม่ใช่ผัก มันคือเนื้อสัตว์ (โอเค) มันคือเนื้อปลา มันคือโปรตีนจากสัตว์ เราไม่สามารถพูดได้ ว่าปลาเป็นอาหารมังสวิรัติ ใช่ไหม? หรือผัก ใช่ไหม? มันไม่ใช่ถ้าเราหวังอย่างแท้จริงที่จะเห็น ความปรองดองแท้จริงเกิดขึ้นระหว่าง มนุษย์และสัตว์ และธรรมชาติและสวรรค์ เราต้องเป็นความปรองดอง เราต้องใช้ชีวิตในความปรองดอง และประพฤติตัวอย่างปรองดอง ซึ่งรวมถึงการกระทำ ของการกินอย่างปรองดอง แต่ละครั้งที่เราไปที่โต๊ะ สันติภาพ ความเมตตา ความกรุณาเริ่มบนจานของเราเราไม่สามารถเรียกตัวเราเอง ว่าปรองดองได้อย่างแท้จริงถ้าทุกมื้อ เป็นผลจากการเติมมือของเรา ด้วยเลือดของ ผู้บริสุทธิ์และการทำร้าย สิ่งแวดล้อมและการฆ่า ดาวเคราะห์ของเราที่เราอาศัยอยู่ เราเรียกอาหารมื้อเย็นว่า ปรองดองกับปลาได้อย่างไร เมื่อการตายช้า ๆ และเจ็บปวด ด้วยการหายใจไม่ออกของปลา จำนวนมาก เกิดขึ้นเพื่อนำปลานั้น มาอยู่บนจานของเรา? คัมภีร์ทั้งหมดบอกเรา ว่าเราได้รับสิ่งที่เราให้ หรือเราเก็บเกี่ยวสิ่งที่เราหว่าน
