ที่จริงแล้วกรรมโยคะ มีวิธีในการตระหนักรู้ ที่ลึกซึ้งกว่า ซึ่งคุณต้องทำงาน ทำงานใดก็ได้ โดยเฉพาะงานอาสาสมัคร และอุทิศให้กับพระเจ้า เพื่อลบล้างกรรมของคุณ นั่นคือเหตุที่ พวกเขาเรียกมันว่ากรรมโยคะ
เกิดอะไรขึ้นกับผมฉันหรือ ? ถ้าคุณมีผม คุณมีปัญหา ถ้าคุณไม่มีผม คุณก็มีปัญหาเช่นกัน แต่ก่อน ฉันไม่มีผม ฉันผ่านสนามบินทุกแห่ง เขาตรวจฉันเยอะมาก เขาโค้งงอรองเท้าฉัน และเอกซเรย์กระเป๋าถือ ชั้นต่าง ๆ ของฉัน ราวกับว่าฉันซ่อนอะไรไว้ ไม่ใช่ทุกประเทศที่รู้ว่า ศีรษะล้านหมายถึงอะไร เพราะพวกเขามี บางคน อย่าง เขามีแก๊งศีรษะล้าน เองด้วย ฉันไม่อยากเอ่ยชื่อ แล้วพวกเขาก็ก่อเรื่อง และพวกเขามีชื่อเสียง ในโลก เรื่องการสร้างปัญหา ดังนั้นฉันก็ศีรษะล้านเช่นกัน ฉันจึงอาจเป็นสมาชิก คนหนึ่งในแก๊งนั้น ฉันจึงมีปัญหา ดังนั้นฉันจึงเริ่มไว้ผม แล้วฉันก็มีปัญหาอื่น ฉันต้องหวี ต้องสระ แล้วตอนนี้ ฉันต้องย้อมผมอีกด้วย ซึ่งฉันไม่ชอบ มันเป็นงานส่วนหนึ่ง คุณไม่เชื่อมัน แต่มันเป็นงานส่วนหนึ่ง แต่ก่อน ฉันไม่รู้ว่า การเป็นอาจารย์ คุณต้องมีผมสีทอง แล้วมันก็แค่เป็นแบบนั้น
มีละครทีวี อเมริกันตอนหนึ่ง มีละครเรื่องหนึ่ง ชื่อว่า “มังค์ นักสืบจิตป่วน” นักสืบคนนี้ ชื่อ มังค์ เป็นนักสืบที่เลิศมาก เขารู้หลายเรื่อง และคลี่คลายคดีได้เสมอ ซึ่งไม่มีใครอื่นทำได้ และทำด้วยกันกับ ตำรวจ นักสืบคนอื่น พวกเขากำลังทำสิ่งดี ๆ กัน และหัวหน้า กรมตำรวจแห่งหนึ่ง เขาอายุมากกว่า และมีหนวดแบบนั้น แล้ววันหนึ่ง เขาต้องย้ายไป ที่อื่นหรืออะไรนี่แหละ และเขาปล่อยให้ผู้ช่วย ซึ่งเป็นชายที่หนุ่มมาก อาจจะ 20 กว่าปี ยังไม่ถึง 30 ด้วยซ้ำ มาแทนเขา ดังนั้นผู้ช่วยหนุ่มคนนี้ ก็ไว้หนวดตรงนี้ด้วย ใหญ่มาก และทุกคนเข้ามา มองดูเขา และพูดว่า “ยังไงน่ะตอนนี้ ทำไม ?” และเขาพูดว่า “เป็นส่วนหนึ่งของงาน” เพราะเจ้านาย ก็ไว้หนวด ดังนั้นเขาคิดว่าเขาต้องไว้ด้วย แค่ให้ดูมีอำนาจมากขึ้น เขาพูดว่า “เป็นส่วนหนึ่งของงาน”
ดังนั้น ขึ้นอยู่กับเราจริง ๆ ไม่ว่าเราจะมีสัตว์เลี้ยงหรือไม่ หรือเราจะเลือก ติดตามครูบางคน เพื่อบำเพ็ญวิถี บางอย่างใน 84,000 [วิถี] เราต้องทำตามหัวใจของเรา และเราต้อง ใช้ชีวิตอย่างชอบธรรม แล้วเราจะมั่นใจได้ว่า จะได้กลับบ้าน และ/หรืออย่างน้อย ก็จะมีชีวิตที่สุขสบาย ในมิติทางกายภาพนี้ ดังนั้น ความใส่ใจอย่างเต็มเปี่ยม และความรักจะช่วยคุณ การเพ่งความสนใจ แต่กับปัจจุบันเท่านั้น จะช่วยคุณมากเช่นกัน เพราะนั่นหมายถึง คุณได้แยกออกจาก กรรมทั้งหมดของโลก มันจะแตะต้องคุณไม่ได้ เราไม่ได้มีเพียง กรรมของตนเอง ที่เรานำมา ด้วยตั้งแต่แรกเกิด แต่เรายังเปรอะเปื้อนจาก กรรมของคนอื่นรอบตัวเราด้วย นักปราชญ์ ชาวจีนคนหนึ่ง ฉันคิดว่าคือ จวงจื่อ - คนที่ชื่อ “จื่อ” ทุกคนล้วนแต่ชื่อ “จื่อ” “จื่อ” คนหนึ่ง แค่พูดว่า สังคมเป็นอ่างย้อมสีใบใหญ่ อย่างเราอยู่ด้วยกัน ดังนั้น เราถูกย้อม เป็นสีเกือบคล้ายกัน เพราะ เราอยู่ในอ่างใบเดียวกัน ที่มีสีย้อมอยู่ข้างใน สังคมเป็นถังย้อมใบใหญ่ โชคดี ฉันยังจำได้บ้าง แบบนั้น คุณจะคิดว่า ฉันค่อนข้างมีการศึกษาดี ฉันพูดว่า มันดีนะ ที่ฉันยังจำได้บ้าง ดังนั้นทำให้คุณคิดว่า ฉันมีการศึกษาหน่อย
หากคุณตั้งใจกับ งานอะไรก็ตามที่เรามีในมือ นั่นก็ช่วยเช่นกัน นั่นเรียกว่า กรรมโยคะ เป็นศัพท์ทางจิตวิญญาณ ที่อินเดีย เรียกทุกสิ่ง ว่า โยคะ หรือวิถีบำเพ็ญ นั่นจริงเช่นกัน นั่นคือเหตุที่ พระพุทธเจ้าตรัสว่า เรามี วิถีบำเพ็ญ 84,000 วิถี มีเรื่องราวเกี่ยวกับชายคนหนึ่ง ที่มาเรียนกับ อาจารย์เซน อาจารย์สอนสิ่งต่าง ๆ ให้เขา แต่เขาไม่ไปไหนสักที่ เขาอาจบำเพ็ญไม่ดี เขาอาจหลับไป ทันทีที่นั่งบนเบาะ หรือเขาอาจแค่นั่งตรงนั้น และคิดถึงสิ่งอื่น เขาจึงไม่ไปไหน ดังนั้นเขามาถามอาจารย์ว่า “โปรดช่วยข้าด้วย มีอะไรอีกไหม ที่ท่านยังไม่ได้สอนข้า ?” เขาพูดว่า “ข้าสอนเจ้าทุกสิ่งแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าว่าจะใช้ประโยชน์ จากมันหรือไม่” เขาพูดว่า “แต่ข้าไม่ไปไหนเลย ข้าทำอะไรไม่ได้เลย ข้ารวมสมาธิไม่ได้ด้วยซ้ำ” อาจารย์จึงพูดว่า “โอเค มีอีกทาง มีอีกวิธี” เขาพูด “ครับ บอกข้าที ๆ” อาจารย์จึงพูดว่า “ออกไป หางานทำ ไปทำมาหากิน”
เพราะจริง ๆ แล้ว เมื่อคุณทำงาน คุณต้องมีสมาธิ ในงานของคุณ มิฉะนั้น คุณจะทำงานได้ไม่ดี หรือคุณจะถูกไล่ออก เนื่องจากความอยู่รอด ในการหาเลี้ยงชีพ คุณจึงต้องตั้งใจทำงาน คุณต้องตั้งใจ งานมีให้คุณ คุณแค่ต้องทำมัน ไม่มีทางเลือก ดังนั้นคุณจึงตั้งใจทำงานของคุณ กับงานตรงนี้ที่มีในมือ นั่นเป็นความใส่ใจอย่างเต็มเปี่ยม อีกแบบเช่นกัน และที่อินเดีย เรียก สิ่งนั้นว่า “กรรมโยคะ” แต่อันที่จริง กรรมโยคะมีวิธีในการ ตระหนักถึงมัน ที่ลึกซึ้งกว่า อย่าง คุณต้องทำงาน ทำงานแบบใดก็ตาม หรือทำงานจิตอาสาโดยเฉพาะ และอุทิศให้กับพระเจ้า เพื่อลบล้างกรรมของคุณ นั่นคือเหตุที่ พวกเขาเรียกมันว่า กรรมโยคะ ไม่ใช่กามสูตร มันแตกต่างกัน ผู้ชาย ไม่คิดเรื่องเหลวไหล ผู้หญิงไม่รู้หรอก ใช่ไหม ? ฉันต้องรู้หลายสิ่ง ขอโทษด้วย ฉันถูกบังคับให้รู้ บางครั้งพวกเขาเอาหนังสือ มาให้ฉัน พวกเขาพูดว่า “อาจารย์ เล่มนี้ดี เล่มนี้ดี เล่มนี้ดี” โอเค ดี ฉันเชื่อใจ ฉันมองดู โอ รูปภาพสารพัด ที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ข้างในและคำอธิบาย นั่นคือกามโยคะ มันแตกต่างจากกรรมโยคะ กามสูตร แตกต่างจาก กรรมโยคะ ฉันไม่จำเป็นต้องอ่านมัน ได้โปรด ไม่จำเป็น การเป็นครู บางครั้ง ก็ไม่น่ายินดี คนจะถามคุณหลายเรื่อง และคุณต้องรู้ เพื่อคุณจะได้บอกพวกเขาได้ว่า “อันนั้นดี อันนั้นไม่ดี อยู่ห่างมันไว้” เป็นต้น ฉันไม่ต้องรู้ หลายเรื่องนัก ขอบคุณพระเจ้า เพราะคุณบำเพ็ญ วิถีกวนอิม และคุณรู้แจ้ง ทั้งหมดด้วยตนเอง คุณไม่จำเป็นต้อง ถามฉันหลายสิ่งนัก บางครั้งคุณก็ถาม แค่เรื่องไร้สาระเกี่ยวกับแมวคุณ สุนัขคุณ อะไรก็ตามของคุณ แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่
ดังนั้นนั่นเป็นวิธีที่ กรรมโยคะได้ผล และ 7 ปี ต่อมา ชายคนนี้กลับมาหาอาจารย์เขา และเขาบอกว่า เขายังไม่ได้อะไรเลย ดังนั้น อาจารย์พูดว่า “งั้น ข้าก็ช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว” นั่นคือประตูสุดท้าย ที่อาจารย์สามารถแสดงให้เขาเห็น และเขาก็ยังทำได้ไม่ดี คุณรู้ไหม บางคน ไม่ตั้งใจทำงานของเขา เขาแค่ทำงานเพื่อให้เวลาผ่านไป มองดูนาฬิกา รอเวลากลับบ้าน แต่ไม่ได้ใส่ ความตั้งใจในงานจริง ๆ ไม่ว่าคุณทำงานอะไร คุณจะต้องทำมัน เหมือนเป็นงานสุดท้ายในชีวิต ครั้งสุดท้ายที่คุณจะสามารถ ทำอะไรสักอย่าง เพื่อช่วยโลก ใส่ความตั้งใจทั้งหมดแบบนั้น คุณทำงานด้วยความเคารพ ด้วยความอุทิศตน ด้วยความดีใจ - ที่คุณมีงานทำ ที่คุณไม่ใช่ คนไร้ประโยชน์ ซึ่งคุณสามารถ ช่วยโลกได้ โลกที่คุณเป็นหนี้มากมาย มาตั้งแต่คุณเกิด เราต้องมีทัศนคติแบบนั้น เราควรมีความสุขมาก ที่ได้รับมอบหมายงานอะไรก็ตาม และทำอย่างสุดความสามารถ แม้ว่าคุณกวาดพื้น คุณเป็นคนทำความสะอาดส้วม หรือเป็นประธานาธิบดี ของประเทศ - ทั้งหมดก็แค่งาน และฉันไม่แน่ใจว่า งานไหนดีกว่า งานประธานาธิบดี หรืองานทำความสะอาด ฉันคิดว่าสำหรับคุณ งาน ทำความสะอาดดีกว่า คุณสามารถกวาดพื้น เช็ดพื้นกระเบื้อง และ ท่อง 5 พระนาม (ศักดิ์สิทธิ์) ในเวลาเดียวกัน อุทิศชีวิตคุณ และงานคุณให้กับพระเจ้า
แต่ถ้าคุณเป็นประธานาธิบดี ฉันไม่คิดว่าคุณจะมีเวลาท่อง 5 พระนาม (ศักดิ์สิทธิ์) แม้แต่ประโยคเดียวด้วยซ้ำ หรือของขวัญที่ฉันให้คุณ สารพัดเรื่อง จะเข้ามาหาคุณทั้งวันทั้งคืน และแม้แต่ตอนที่คุณหลับ ปัญหาของคุณจะ หลับไปกับคุณ ถ้าคุณนอนหลับได้ ฉันไม่ใช่ประธานาธิบดี แต่ฉันรู้ ตัวอย่างเช่น เมื่อคืน ฉันนอนไม่หลับ เนื่องจาก ปัญหาของคนอื่น มันแค่เข้ามาหาฉันโดยไม่ได้ร้องขอ ดังนั้น ลองนึกดูว่า ประธานาธิบดี ต้องจัดการกับเรื่องมากมายแค่ไหน : ระดับนานาชาติ ระดับประเทศ และกับเจ้าหน้าที่ กับอัตตามากมายนัก ที่วนเวียนรอบตัวเขา ไม่ต้องสงสัย ประธานาธิบดี หรือกษัตริย์มีหลายคน ที่ช่วยเขา ด้วยจิตอาสาเช่นกัน แต่เขายังต้อง จัดการกับอัตตาเหล่านี้ พวกเขาไม่ได้ช่วย อย่างไร้เงื่อนไข เหมือนสุนัขหรือแมว เขาต้องการบางอย่าง ความสนใจ หรืออย่างน้อยก็รางวัล รอยยิ้มจากคุณ คำชื่นชมจากคุณ หรือใบรับรอง จิตอาสาแห่งปี ผู้ฝึกงานแห่งศตวรรษ อะไรก็ตาม พวกเขายังต้องการการเอาใจใส่ ความสนใจจากผู้มีตำแหน่งสูงสุด จากผู้นำประเทศ ภูมิใจที่ได้ทำงานเคียงข้างเขา และพวกเขาก็มีอารมณ์ของตนเอง มีอัตตาของตนเอง มีการแข่งขันของตนเอง และพลังงานทั้งหมดนี้ และคำร้องทุกข์ทั้งหมดของพวกเขา ทั้งเงียบ ๆ หรือเสียงดัง จะเข้าไปในหัวคุณด้วย ตอนคุณหลับ เพราะเราดูดซับทุกอย่าง รอบตัวเราด้วยร่างกายของเรา เราซึมซับพลังงาน ความคิด ทั้งแย่หรือดีของผู้อื่นเช่นกัน นั่นคือปัญหา เมื่อเราอยู่ในสังคม
นั่นเป็นเหตุที่อาจารย์มากมาย ท่านแค่จากโลกนี้ไป ท่านเบื่อหน่ายจริง ๆ ท่านคิดว่า โลกไม่มีทางเยียวยา ไม่มีทางเยียวยาเพื่อช่วยโลก ที่สิ้นหวังอย่างมากนี้ได้ ลำบากมาก ซับซ้อนมาก นั่นคือเหตุที่อาจารย์มากมาย ท่านจะไปอยู่ที่อื่นกัน : ไปที่ ๆ ลึกมากใน เทือกเขาหิมาลัย เช่น โคมุข เป็นต้น เป็นต้นกำเนิดแม่น้ำคงคา ที่ซึ่งปกติ ไม่มีใครไป มีหิมะตลอดปี แม้แต่ในฤดูร้อน และท่านกินเรียบง่ายมาก หรือไม่กิน อาจจะกินหิมะ บางทีท่านแค่นำเอา ข้าว และถั่วดาล อย่างถั่วที่เป็นฝัก พวกเลนทิล มากับท่าน แค่ให้อยู่ได้นาน 2-3 เดือน และถ้ามีคนขึ้นมา อาจเป็นคนงาน หรือบางอย่างนำเอาถั่วเลนทิล และข้าวอีกถุง มาให้ท่าน เพื่อให้อยู่ได้ อีก 2-3 เดือน อย่างนั้นเป็นต้น แต่ท่านต้อง รอจนถึงฤดูร้อน อย่างน้อยในฤดูร้อน เราจะมองเห็นถนนได้ ในฤดูหนาวไม่มีทางเลย ทุกอย่างถูกปิดกั้น เป็นเหมือนภูเขาลูกใหญ่ทุกแห่ง และในฤดูร้อน กองทัพที่ประจำการ บนเทือกเขาหิมาลัย แค่ที่ชายแดน พวกเขาต้องรักษาชายแดน ในฤดูร้อนพวกเขาจะมา พร้อมรถดันดิน แมวใหญ่ เพื่อดันหิมะ และทำให้เป็นถนนเส้นเล็ก ๆ ที่อยู่ระหว่าง กำแพงน้ำแข็งขนาดใหญ่ 2 ด้าน จากนั้นผู้แสวงบุญจะเริ่ม ขึ้นไปนมัสการ ภูเขา แม่น้ำ และอาราม ของอาจารย์ในอดีต และอธิษฐาน ขอสิ่งที่พวกเขาขอ
กรรมโยคะ ไม่ใช่แค่ มุ่งไปที่การทำงานอย่างเดียว แต่เป็นการอุทิศกับมัน เพื่อความสุขสมบูรณ์ของผู้อื่น เหมือนงานจิตอาสา เพื่อคนยากจน คนไร้บ้าน หรือทำความสะอาดวัด ให้พระ หรือศาลของ เทพเจ้าและเทพธิดา และนั่นเรียกว่า กรรมโยคะ บางคนบำเพ็ญแค่นั้น พวกเขาไม่ได้สวดมนต์ ไม่อะไรเลย ไม่ทำสมาธิด้วยซ้ำ พวกเขาอาจจะทำนะ คือ พวกเขาจะนั่งต่อหน้า รูปปั้นทวยเทพ และสงบเงียบ และบางครั้ง ถ้าพวกเขาบริสุทธิ์พอ ก็จะได้เห็นเหล่าเทพธิดา หรือเทพเจ้าปรากฏต่อเขา อย่าง ท่านศรีรามกฤษณะ ภรรยาของท่านกลายเป็น พระแม่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ เขาเรียกเธอว่า พระแม่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ ท่านแต่งงานกับเธอ ตอนเธอเด็กมาก แค่เพราะประเพณีครอบครัว แต่ท่านไม่เคยมี การสัมผัสทางกายใด ๆ ท่านทั้งสองอยู่ร่วมกันเตียงเดียวกัน แต่ท่านไม่เคยทำอะไร ท่านพูดว่าท่านถูกยั่วยวนใจ แต่แล้วท่านก็ไม่ และบางคนตำหนิท่าน ที่ละทิ้งเธอ เธอสบายดี เธอกลายเป็นที่เคารพนับถือ ในฐานะ พระแม่ผู้ศักดิ์สิทธิ์
อินเดียเป็นประเทศที่น่าหลงใหลมาก ฉันรักอินเดียจริง ๆ อาจเพราะฉันเคยเป็นชาวอินเดีย ในบางชาติ ไม่ใช่แค่ชาติเดียว แต่จริง ๆ นะ ฉันรู้สึกเหมือน... อย่างที่ฉันบอกคุณครั้งที่แล้ว มีสถานที่หนึ่งที่ฤษีเกษ ที่ฉันรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน เป็นแค่บ้านโคลน ห้องโคลน กับหินไม่กี่ก้อน อยู่หน้าบ้าน และปิ้งจาปาตี (วีแกน) กินเนยถั่ว และแตงกวา และฉันรู้สึกดีมากที่นั่น ไม่มีที่อื่นใด ที่ฉันคิดถึง มีแต่ที่นั่น โลกนี้ทั้งโลก ฉันไม่รู้สึกว่า อยากจะอยู่ที่ไหนเลย แต่ถ้าฉันมีทางเลือก ฉันจะกลับไปที่นั่น อยู่ที่นั่น ฉันแค่รู้สึกอิสระมาก มันอาจเป็นความรู้สึกที่แตกต่าง ในเวลานั้น เพราะ ฉันมาจากนิวเดลี เบียดเสียดวุ่นวายที่นั่น และมีคนที่เรียกว่าศิษย์ มากมายรอบ ๆ และพวกเขากินอาหารทั้งหมด และไม่ให้อะไรฉันกิน ที่กินเหลือ ก็ไม่มีเลย และฝุ่นเยอะ ดังนั้น บางครั้ง น้ำเน่าของเสีย การระบายน้ำ และทั้งหมดนั้น นั่นไม่ใช่แบบของฉัน ไม่ใช่สไตล์ฉัน ดังนั้น เมื่อฉันเข้าไปลึกขึ้น ในเทือกเขาหิมาลัย อย่าง ฤษีเกษ หรือ แคชเมียร์ ฉันชอบมันมากกว่า แต่ฉันไม่ชอบ แคชเมียร์มากนัก ถึงแม้แคชเมียร์ จะสวยกว่ากระท่อม ที่ฉันเคยพัก ไม่มีอะไรที่เป็น ทิวทัศน์หรืออะไรจริง ๆ แค่อยู่บนภูเขา ตรงกลางภูเขา และต้นไม้ และแม่น้ำคงคา อยู่แค่ไม่กี่นาที อาจ 2-3 นาที ห่างออกไป ฉันมีน้ำให้ใช้ฟรี เพื่อปรุงอาหาร และกระท่อม และฉันนอนบนหลังคา แต่ฉันคิดถึงสถานที่นั้น ส้วมอยู่ข้างนอก ฉันมีห้องส้วม ขอบคุณพระเจ้า สถานที่ส่วนใหญ่ไม่มีนะ ดังนั้น ฉันชอบที่นั่น นั่นเป็นสถานที่ ที่ฉันรู้สึกดีที่สุด ตลอดเวลานี้ ไม่ว่าที่ใด เมื่อเทียบกับที่อื่น แม้แต่ที่นี่ ฉันก็รู้สึกไม่ดีนัก อันที่จริง ที่นี่เพียงแค่ทำงาน เป็นธรรมชาติมาก ฉันไม่คิดว่า ครูคนไหนจะรู้สึกดีที่อยู่แต่ใน ห้องเรียนของเขาตลอดเวลา เขาอยากกลับบ้าน ถึงแม้ห้องเรียน โรงเรียนของเขา อาจดูดีกว่า แฟลตเล็ก ๆ ของเขา แต่เขาอาจอยากกลับไปที่ กระท่อมหรือแฟลตเก่า ๆ ของเขา มากกว่าอยู่โรงเรียนที่หรูหรา สะอาดและสร้างอย่างแข็งแรง
